วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

รับมือกับปัญหากัมพูชาอย่างมีสติ

นายกไทยกับนายกกัมพูชา กำลังทะเลาะกันอย่างหนัก และมีทีท่าว่าจะลากเอาส่วนอื่นของประเทศเข้าสู่กลไกความขัดแย้งด้วย วันนี้จะขอนำบทความที่นำลงเมื่อ 15 พฤศจิกายน ตอนที่รัฐบาลพลิกกลับจากการหงอให้ฮุน เซ็น มาเป็นโกรธกริ้ว เพียงเพราะทักษิณไปเป็นที่ปรึกษาฝ่ายโน้น

ความห้าวที่ผิดกาละเทศะส่งผลกระทบมาจนถึงทุกวันนี้ ทางแก้ไม่ใช่การกลับไปหงอใหม่ ไม่ใช่การลุยทุกรูปแบบ และไม่ใช่การเอะอะอะไรก็เพ้อแต่คำว่าทักษิณ แต่ควรจะทำยังไงนั้นอ่านดูแบบไม่ตัดทอนเถอะครับ


รับมือกับปัญหากัมพูชาอย่างมีสติ



และแล้วรัฐบาลก็กล้าที่จะห้าวใส่ฮุน เซ็น สมดังความตั้งใจของกองเชียร์เสียที แต่การอ้างเหตุผลเรื่องทักษิณนั้นเป็นเรื่องที่ผูกปัญหายุ่งเหยิงที่ตามมาอีกมาก ขณะที่ยังไม่แน่ใจว่าปัญหาพื้นฐานที่เสียเปรียบกัมพูชาจริงๆ นั้น รัฐบาลจะแก้ได้หรือเปล่า หรือว่านี่เป็นเพียงเกมบลั๊ฟกันซึ่งไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากความได้เปรียบของพรรคประชาธิปัตย์ในการเมืองภายในประเทศ การรับมือกับปัญหานี้อย่างฉลาด หวังแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยไม่สร้างศัตรูถาวรเพิ่มขึ้นนั้นคือสิ่งที่ผู้มีอำนาจควรทำ



รัฐบาลควรตอบโต้เขมรมาตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ทหารกัมพูชารุกเข้ายึดพื้นที่ทับซ้อนสามพันไร่ ไม่ใช่ปล่อยให้พวกเขาตั้งมั่นอยู่บนยอดภูมะเขือ จ่อปืนใหญ่มาทางไทยได้ วิธีการแก้ไขปัญหาไม่ใช่การเอาบรรณาการไปส่งเปล่า ๆ ไม่ใช่การยกเลิกเอ็มโอยูทางทะเล ที่อาจปิดกั้นโอกาสการแสวงประโยชน์ในน้ำมันและก๊าซของกัมพูชา และไม่ใช่การอ้างสิทธิเหนือปราสาทพระวิหารที่เสียไปแล้ว แต่ต้องเป็นการผลักให้เขมรยกทัพออกไปให้ได้ และต้องให้ฮุน เซ็น เลิกการจับจ้องปราสาทตาเหมือนเสียด้วย การทบทวนความช่วยเหลือกัมพูชานั้นถูกแล้วและหากจำเป็นก็อาจต้องใช้กำลังอย่างจำกัด ควบคู่ไปกับการปักปันเขตแดนที่ควรแล้วเสร็จเสียที จะด้วยวิถีทางใด แลกพื้นที่บางส่วนของกันและกันก็ได้ถ้าจำเป็น



รัฐบาลต้องควบคุมกระแสชาตินิยมให้พอเหมาะ ไม่ใช่คลั่งชาติจนนำไปสู่การไม่ยอมกันของชนในชาติ การมุ่งเป้าไปที่อดีตนายกนั้น รัฐบาลต้องเล็งรับมือกับความไม่พอใจอย่างรุนแรงของเครือข่ายเสื้อแดงด้วย ปฏิกิริยาเร่งอย่างนี้ ต่อให้มีจุดพลิกผันหรือแตกหักเป็นห้วง ๆ ก็จะไม่มีวันจบลงในระยะเวลาอันสั้น ไม่รู้ว่ารัฐบาลเตรียมพร้อมขนาดไหน ยุทธศาสตร์ระยะยาวเป็นเช่นไร และจะเหมาะสมกว่าไหมที่จะดำเนินการกับกัมพูชาในแบบที่ทั้งฝ่ายเสื้อแดงและเสื้อเหลืองพอใจทั้งคู่ ไม่ใช่ยิ่งแตกร้าวกันหนักเข้าไปอีก และที่สำคัญคือความรู้สึกหรืออุดมการณ์ใด ๆ นั้นเป็นคนละเรื่องกับความจริงที่ตรงเข้าถึงตัวชาวบ้าน เช่น ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมไปได้ รัฐบาลต้องไม่ลืมให้น้ำหนักกับประเด็นนี้เป็นอันขาด



ปัญหาใด ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่าให้ลามไปในด้านอื่น คงต้องเตรียมตัวรับผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งจากการค้าการลงทุนในประเทศนี้ และผลกระทบที่ชาติอาจเข้าสู่ภาวะไม่สงบเอาไว้ การตอบโต้ด้วยวาจาแบบเด็ก ๆ เช่น จะสร้างบ้านให้ผู้มีส่วนกับการปลุกกระแสความไม่สงบในพนมเปญเมื่อ 6 ปีก่อน (หมายถึง สมรังสี) นั้นไม่ควรเอ่ย ขณะที่การจัดหายุทโธปกรณ์เพื่อรองรับศึกทางตะวันออกควรตรวจสอบให้ดี อย่าให้ใครใช้เป็นข้ออ้างหาประโยชน์เกินจำเป็นได้


ลงท้าย ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ขอให้เลือกดำเนินการในทางที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์อย่างแท้จริงต่อประเทศชาติและคนไทยมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์หรือกลุ่มก้อนใด ๆ

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ13/2/53 06:27

    พี่เรือทายผิดแล้วจ้ะ ที่ว่าไม่มีใครจับมือปาขี้นายกได้ มันกล้าจับเอาไปติดคุกซะด้วย เอาใจอภิสิทธิ์กันใหญ่ จัดฉากหรือเปล่าไม่รู้

    เก่งนะตำรวจไทยใจสีเหลือง ใครปาไข่ปาขี้ กล้าจับ แต่กลับไปกราบพวกปิดสนามบิน กลายเป็นพวกผู้ก่อการดี

    ตอบลบ
  2. แต่ผมทายถูกเรื่อง GT200 ไม่ใช่เหรอ ระงับการซื้อไว้ก่อนจริง ๆ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ17/6/53 23:30

    -*-
    555+
    จะดีเหรอ
    5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555+++++++++++++++

    ตอบลบ