วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

อ่อนใจกับความคิดเลอะเทอะด้านการบริหารของพรรคประชาธิปัตย์

ผ่านไป 4 เดือน ประเทศทรุดโทรมลงไปทุกทีเพราะพวกไม่มีฝีมือ ดีแต่คุยโม้มาบริหารประเทศ

พวกเขาคิดว่าคนทางมีอยู่แค่ 3 อย่าง คือ กู้ กู้จนตัวซีด จะจัดประชุมโน่น บินไปเยือนนี่ เพื่อกู้เงินต่างชาติมาให้มากที่สุด โดยไม่สนว่าดอกเบี้ยมันจะแพงขนาดไหน อะไรของชาติต้องไปจำนำไว้บ้าง แล้วที่ไม่กลัวหน้าแตกก็คือ เขาอาจจะไม่ให้กู้ก็ได้

ปากบอกจะไม่ขายสมบัติชาติ นี่ยาสูบก็เริ่มแล้ว เดี๋ยวอาจจะมีสัมปทานโน่นอีกยุบยับ กฏหมายแปรรูปสมัยตาชวนอาจได้ใช้กันมโหฬารก็เป็นได้

เรื่องขึ้นภาษีนั่นขึ้นเเน่ ตอนนี้ภาษีน้ำมันทำเนียน ขึ้นเอา ๆ ทั้งที่ตลาดโลกราคาลด ค่าไฟฟ้าประปา ประชาชนเห็นแล้วสะดุ้งเฮือก

หาเงินได้แค่นี้โดยไม่สร้างวิธีหาเงินใหม่ ๆ แบบที่ประชาชนไม่เดือดร้อน ไม่สร้างงานและโอกาสประชาชนให้อยู่อย่างยั่งยืน ไม่บรรเทาทุกข์ชาวบ้าน อย่างนี้ก็เเย่ เราลองมาดูแนวคิดแปลก ๆ ของพวกเขากัน

1. เศรษฐกิจแย่อย่างนี้ เป็นใครก็ต้องนั่งวิตก ดันบอกว่าไม่เป็นไรออกไปเที่ยวกันเถอะ เพื่อช่วยชาติ จริงอยู่ว่าภาคท่องเที่ยวน่าเห็นใจ แต่การรณรงค์ให้คนที่กำลังเป็นหนี้ กำลังอยากเก็บออมเพื่อสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว เอาเงินไปใช้ละลายกับความฟุ่มเฟือยนั้น ถามจริง ๆ เถอะ ใครจะเชื่อคุณ ก็มีแต่เศรษฐีที่มีกะตังค์เหลือเฟือเท่านั้นเเหละที่จะเป็นเป้าหมาย

2. แจกเงินเล่นแบบไร้ค่า ยิ่งกว่ามิยาซาว่าอีก 10 เท่าก็ไม่ฟื้นหรอก แทนที่จะเอางบประมาณมหาศาลไปทำอย่างอื่น ดันไปอุ้มชูพรรคพวกกันเอง โดยหน้าฉากทำเป็นเวียนประชาชนสักหน่อย คิดเหรอว่าทำเช่นนี้บริษัทใหญ่บริษัทโตจะฟื้น เพราะถึงประชาชนจะไม่สามารถเก็บออมเงินได้ บริษัทพวกนี้ได้เงินไปก็ไม่กล้าลงทุน ไม่กล้าปล่อยสินเชื่อต่ออยู่ดี เงินก็ไม่หมุน

3. คนที่เดือดร้อนเวลานี้คือคนที่ไม่มีฝีมือพิเศษ อบรมต้นกล้าอาชีพก็อาจจะดี แต่ไม่ดีหรอก ถ้าเศรษฐกิจเรากำลังอยู่ช่วงขาพุ่ง ความต้องการแรงงานประเภทนี้จะมีสูง สามารถอบรมงานวิชาชีพงานอาชีวะให้เขาเข้าสู่ระบบได้ แต่สถานการณ์แบบปัจจุบันนี้ อุตสาหกรรมไม่ต้องการแรงงานแบบนี้แล้ว ไม่มีประโยชน์

4.กระตุ้นเศรษฐกิจไปเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง แนวทางขัดกันสุดขั้ว หากจะเน้นเศรษฐกิจพอเพียงก็ควรเลิกกระตุ้นเศรษฐกิจ ระดมการปลูกฝังให้คนพออยู่พอกิน มุ่งรัฐสวัสดิการคอยบรรเทาทุกข์ แต่หากกระตุ้นเศรษฐกิจก็ต้องหวังให้คนเอาเงินออกมาจ่ายมากกว่าที่รัฐลงทุนไป ก็จะไม่มีทางพอเพียง

5.ตัดงบสาธารณสุขนี้น่าเจ็บใจชัด ๆ ที่ผ่านมาโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ถึงยาและการบริการจะสู้โรงพยาบาลที่เสียเงินแพง ๆ ไม่ได้ แต่ก็ทำให้คนรอดตายมานักต่อนัก คนไม่ต้องหมดตัวเพราะการไปหาหมอ แม้แต่พวกพันธมิตรที่เกลียดทักษิณ เวลาป่วยแพงก็ต้องรักษาด้วยบัตรทองเหมือนกัน ยิ่งประเทศกำลังแย่ทุกอย่าง คนยิ่งเจ็บป่วย ควรรีบเพิ่มงบบรรเทาทุกข์ประชาชนให้มากกว่าเอาเค้กไปแบ่งกันในหมู่พรรคพวก ไม่งั้นชาวบ้านที่ไหนจะรักคุณ

6. ปากบอกสมานฉันท์ ไม่ต้องการให้ปัญหาการเมืองกระทบเศรษฐกิจ ทำไมรอบตัวนายกยังมีปากตะไกรที่ไม่ทำอะไรนอกจากอัดฝ่ายตรงข้ามทั้งโฆษกส่วนตัวทั้งสถานีโทรทัศน์ของรัฐ เเล้วอย่างนี้เสื้อแดงครึ่งค่อนประเทศเขาจะยอมปฏิบัติตามนโยบายเศรษฐกิจของรัฐล่ะหรือ

7.บริหารไปบริหารมา ทุกอย่างแย่ลงก็โทษเสื้อแดงเข้าไว้นะครับ คงมีคนเชื่อว่าเป็นเพราะคนอื่นจึงทำเศรษฐกิจไทยไม่ฟื้นจริง ๆ แต่คนเหล่านี้ก็คือฐานเสียงของพรรคทั้งนั้น และเมื่อสภาพประเทศเป็นเช่นนี้คนที่ไม่เชื่อเรื่องเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นจะมากขึ้นทุกที จะเหมือนกับการแก้วิกฤตต้มยำกุ้งที่ถึงจะอ้างยังไงก็ไม่พ้นโดนด่า

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552

สรุปเหตุผลตามลำดับเวลาที่ไม่มีวันสมานฉันท์ ฉบับ"กูจะไม่เข้าใจมึง"

เป็นไปตามคาด ส.ส.2 ฟากมีมุมมองต่างกันสุดขั้ว และใช้เวทีประชุมสภาร่วมเป็นที่ด่ากัน ฉันถูก แกผิด ไม่ใช่เวทีรอมชอม การถ่ายทอดทีวีแสดงความความเกลียดชังครั้งนี้ออกไปทั่วประเทศ นอกจากจะไม่เจอทางแก้ปัญหาที่ปฏิบัติจริงได้แล้ว ยิ่งทำให้คนต่างสีแค้นกันหนักขึ้นชนิดเลิกเผาผีตลอดไป

เรามาสรุปสาเหตุวิกฤตการณ์ทั้งหมดในรอบหลายปีมานี้ แบบลำดับเหตุการณ์ แบบเอาเหคุเอาผลคนสองฝ่าย ลงมาให้เหลือบทความเดียว สไตล์เว่อ เว่อ

ฝ่าย A ---- สงกรานต์เลือดทหารฆ่าประชาชนผู้ชุมนุมโดยสงบ
ฝ่าย B ----- ก็เพราะเสื้อแดงก่อจลาจล จึงต้องเอาทหารออกมาปราบ

ฝ่าย A ---- ที่เสื้อแดงโมโหทั้งวันที่ 13 ก็เพราะทหารฆ่าประชาชนที่ดินแดงตอนรุ่งสางก่อน
ฝ่าย B ---- ทหารต้องออกมาเด่ะ เพราะเสื้อแดงจะฆ่านายก และทำลายการประชุมที่พัทยา

ฝ่าย A --- ที่วุ่นวายพัทยาจนกระจกแตก ก็เพราะรัฐบาลสั่งกองกำลังติดอาวุธเสื้อน้ำเงินมาทำร้ายเสื้อแดงก่อน
ฝ่าย B ---- เสื้อน้ำเงินเป็นพวกรักชาติ เกิดขึ้นมาเพราะจะปกป้องสถาบันจากคนเสื้อแดง เห็นเสื้อแดงชุมนุมมากเลยมาด่า

ฝ่าย A ---- ที่ชุมนุมมากโดยเฉพาะวันที่ 8 เม.ย. ก็เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่รัฐบาลโกงกลางสภา ธันวา 51
ฝ่าย B ---- ที่รัฐบาลได้อำนาจมา เพราะคนเขาไม่เอาระบอบทักษิณ

ฝ่าย A ---- คนส่วนใหญ่เขาเอาทักษิณ แต่พวกเลวบางพวกตลอดจนรัฐบาลนี้กลั่นแกล้งทุกอย่าง รวมทั้งปฏิวัติเขา 19 ก.ย.51
ฝ่าย B ---- ที่ปฏิวัติก็เพราะทักษิณโกงชาติ

ฝ่าย A ---- ปี 44-48 ทักษิณสร้างความเจริญให้ชาติ รากหญ้ารุ่งเรืองพ้นเงื้อมมืออำมาตย์
ฝ่าย B ---- อำมาตย์รักษาประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ในอดีตก็ช่วยชาติพ้นพวกคอมมิวนิสต์

ฝ่าย A ---- คอมมิวนิสต์แรงขึ้น เพราะอำมาตย์อนุรักษ์ขวาจัดฆ่าประชาชน 6 ต.ค.19
ฝ่าย B ---- ที่ฆ่ากันวันนั้น เพราะคอมมิวนิสต์เหิมเกริมจะล้มล้างสถาบัน

ฝ่าย A --- ยุคนั้นที่คนเป็นซ้าย เพราะเกลียดชังรัฐบาลเผด็จการ
ฝ่าย B ---- โอ๊ย ขีเกียจเถียงกับมึง อะไรอะไร รัฐบาลก็เลวหมด

ฝ่าย A ---- ไม่อยากเถียงกับมึงเหมือนกัน เดี๋ยวก็ยกเอาชาติ เอาสถาบันมาเล่นงานกู
ฝ่าย B ---- ก็เพราะมึงเลวน่ะสิ

ฝ่าย A ---- มึงเลวก่อนต่างหาก
ฝ่าย B ---- มึงเลวก่อน ถึงไม่ใช่มึง พ่อมึงทักษิณก็เลว

ไม่รู้จะเขียนต่อไปหาอะไรแล้วครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นนิทานเรื่องลูกแกะกับหมาป่าไป แต่เท่าที่เขียนมานี้ ใครที่ยังคิดว่าสังคมไทยจะยังปรองดองกันได้ ขอบอกไว้เลยครับ ว่าคุณเป็นคนจิตใจดี แต่ช่างฝันจนไม่อยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงครับ

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2552

โอ้ จะลากเรื่องวุ่นวายการเมืองไทยให้เป็นเรื่องศาสนาให้ได้

คงเกรงประเทศไทยจะไม่ตกอยู่ในแวดวงของสงครามศาสนา สมัย เจริญช่าง ส.ส.ประชาธิปัตย์จึงจะลากให้ได้ว่า เสื้อแดงที่ถูกปลุกปั่นโดยทักษิณ เล่นงานลบหลู่สถานที่ทางศาสนา ถึงกับฟ้องไปทางเจ้าผู้ครองรัฐดูไบและยังออกทีวีขยายเรื่องนี้ให้กระจายไปทั่วประเทศ

ปลุกปั่นกันอย่างนี้ แล้วหวังอะไร หวังให้ชาวมุสลิมทั่วประเทศโกรธแค้นทักษิณและเสื้อแดงในข้อหาลบหลู่ศาสนาอิสลามอีกเหรอ

ข้อหาลบหลู่สถาบันนั้นยังไม่พอเติมเชื้อความคลั่งแค้นระหว่างกลุ่มชนจนปรองดองไม่ได้จนถึงทุกวันนี้อีกหรือ

ลองดูข้อเท็จจริงและเหตุผลเรื่องนี้นะครับ

1. ข้อเท็จจริง มีการยิงกระสุนใส่มัสยิด 1 นัด ไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่มีรอยกระสุน
2. ข้อเท็จจริง มีเสื้อแดงต่างถิ่นอยู่แถวนั้น แต่ไม่มีใครเห็นคนยิง

ข้อที่ยังเป็นปริศนา
1. ใครยิงกระสุนนี้ เสื้อแดง หรือ เสื้อน้ำเงิน (จัดฉาก) หรือชาวบ้านแถวนั้น
2. ยิงโดยบังเอิญหรือจงใจ
3. ถ้าบังเอิญ ก็มีคำถามต่อว่า เรื่องแค่นี้สามารถลากเข้าเป็นเรื่องดูหมิ่นศาสนา จะเอาเป็นเอาตายให้ได้เชียวหรือ
4. ถ้าจงใจ นี่คือหนึ่งในการสร้างสถานการณ์ของฝ่ายจัดฉาก หรือของฝ่ายทักษิณกันแน่

ข้อที่พยายามไข
1. ฝ่ายเพื่อไทย อ้างว่าเป็นการจัดฉาก มีคนแสร้งยิงมัสยิดเพื่อให้เห็นว่าเสื้อแดงนั้นเลว จะได้ปลุกระดมคนมุสลิมให้คุกรุ่น
2.รณ ฤทธิชัย ฝ่ายเนวินเสื้อน้ำเงิน อ้างว่าเสื้อแดงยิง แต่คงไม่เจตนาลบหลู่ศาสนา เพราะจะยิงคนบนมัสยิดที่อาจจะทำร้ายคนเสื้อแดง ไม่เกี่ยวกับศาสนา
3 สมัย เจริญช่าง อย่างที่บอก ทักษิณกับเสื้อแดงจงใจชัด ๆ

ลองดูกันเถิดว่า 3 เหตุผลนี่ใครควรพูดจริง ใครพูดน่าเชื่อถือกว่ากัน แต่อยากจะบอกว่า ผมยังไม่เห็นเหตุผลเลยว่าเสื้อแดงที่กำลังจะถูกกวาดล้าง จะต้องไปมั่วเเกล้งอิสลามให้ตนเองโดนด่าทำไม

แล้วเราควรจะทำอย่างไร

ทำอย่างไรก็ช่าง แต่ถ้าทำอย่างที่ 3 ก็น่ากลัวล่ะครับ เรื่องการเมืองจะฆ่ากันตายอยู่แล้ว นี่เขายังลากเอาชาวมุสลิมทั่วโลกให้เกลียดเสื้อแดงอีก โดยไม่นึกเลยว่าหากพวกคลั่งศาสนามันบ้าเลือดขึ้นมาจริง ๆ มันจะไม่เหมารวมเล่นงานคนไทย และอาคารสถานที่กรุงเทพโดยไม่แยกแยะ นี่คือเอาศาสนามาเล่นกับการเมืองอย่างบัดซบที่สุด ไม่ต่างกับที่เคยมีไอ้คนไม่มีความรับผิดชอบคนหนึ่งเอาซีดีตากใบไปขยายผลเผยแพร่ทัวไป หมอนี่หวังแค่ดิสเครดิตรัฐบาลทักษิณ โดยไม่คำนึงเลยว่าความคลั่งแค้นของพวกคลั่งศาสนา ทำให้ปัญหาภาคใต้ไม่จบทุกวันนี้ ทำให้ข้าราชการและพลเรือนต้องล้มตายเป็นใบไม่ร่วงจนถึงปัจจุบัน

เล่นบ้า ๆ หวังเล่นงานศัตรูโดยไม่นึกถึงปัญหาใหญ่กว่าที่จะตามมานี่แหละเป็นต้นเหตุให้ประเทศฉิบหาย

เชิญชวนอ่านปฏิทินข่าว ช่องขวามือ

ชักชวนครับ เผื่อเพื่อน ๆ จะสนใจแต่บทความใหม่ ๆ ไม่ทันดู ช่องขาว ๆ ทางขวามือ ที่ผมเซ็ทคอลัมน์ไว้เป็นปฏิทินข่าวอนาคต

ปฏิทินข่าวอนาคต คือ บอกว่าอนาคตอันใกล้จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เป็นกำหนดการข้อเท็จจริง แต่ผมก็แตะคำทำนายไว้นิดหน่อย พอให้ตื่นเต้น

ผู้ที่อ่านจะพบว่า คำทำนายครั้งก่อนแม่นยำ (ยกหางตนเองหน่อยนึง)

ครั้งก่อน ผมเขียนปฏิทินข่าววันที่ 12 พร้อมกับเขียนบล็อก ผมว่าวันที่ 13 จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นแน่ และหยุดสงกรานต์จะยาวเฟื้อยจะไปเปิดอีกทีวันที่ 20 ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นตามนั้นเป๊ะ

แน่นอนว่าคงไม่ใช่จะแม่นไปซะทุกครั้ง แต่ผมเชื่อว่าด้วยประสบการณ์ของผมและด้วยข้อมูลบางส่วนที่ผมมี ทายถูกจะมากกว่าทายผิดครับ

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2552

ใครยิงสนธิ..

การลอบสังหารสนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อวานนี้เป็นเรื่องที่ผิดคาดของผมอยู่นิดเดียว คือ มันเกิดเร็วไป ตามทฤษฏีของผม คือ ควรเป็นเมื่อสนธิไม่อยู่ในความสนใจของคนไปอีก 18 เดือน จึงจะมีการลงมือ แต่ที่มีการลงมือวันนี้น่าจะ

1.สนธิไม่ใช่ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์(ซึ่งผมคิดว่าอาจโดนเหมือนกัน เพราะทำให้ผู้ใหญ่บางคนเกลียดมาก) เพราะสนธิ ไม่มีวันโลว์โปรไฟล์ ดังนั้นการรอ จะเป็นการรอที่ไม่สิ้นสุด

2.สนธิเรียกร้องมากเกินไป กำความลับมากเกินไป ถ้าปล่อยนานไป ใครจะมั่นใจได้ว่าอะไรที่สนธิจะเผยออกมาจะไม่กระทบถึงตนไหม คำพูดของสนธินั้นมีจริงปนเท็จ แต่สาวกและคนจำนวนมากก็พร้อมที่จะเชื่อ (สาวกจะเชื่อทุกอย่าง และพร้อมเป็นปฏิปักษ์กับแนวร่วม ASTV ถ้าสนธิสั่ง เท่าที่ผ่านมาก็มีสาวกจำนวนมากไม่เอาสุเทพ เทือกสุบรรณบ้างแล้ว ส่วนเนวิน ชิดชอบ นั้นสาวกยิ่งเกลียด เพราะสนธิไม่เคยเลิกเกลียดเนวิน ส่วนฝ่ายตรงข้ามสนธิ ถึงไม่เชื่อเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ ไสยศาสตร์ แต่ถ้าสนธิพูดเรื่องที่อ้างว่าลับ คนใหญ่คนโตมาเกี่ยวข้อง ก็เชื่อสนธิเหมือนกัน เพราะหลายกรณีพิสูจน์แล้วว่าสนธิพูดตรงจริตของฝ่ายตรงข้าม ดังเช่นการพูดที่อเมริกาปี 50)

ถ้าคนเชื่อมากแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ความเสื่อมไงล่ะครับ เรื่องพวกนี้ผู้ใหญ่เขาถือสามากกว่าคนธรรมดา ไม่มีใครอยากให้คนอื่นมาแบล็คเมล์อยู่ทุกวัน อุตส่าห์หาทางลงเรื่องปิดสนามบินและช่วยสนธิมาหลายเรื่องแล้ว แต่สนธิยังไม่พอใจ อ้าว ก็จะพอใจได้ยังไง สนธิลงแรงหนักสุดแต่แทบไม่ได้อะไรเลย เงินอาจจะพอได้สังเกตจากโรงแรมที่เปิดใหม่ที่ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ แต่คนอย่างสนธิไม่ใช่ต้องการแค่เงิน เขาต้องการการยอมรับและศักดิ์ศรี ไม่งั้นไม่ออกมาเปิดหน้ารบ เป็น front ให้อย่างนี้หรอก

3.สนธิหมดประโยชน์แล้ว อดีต เขาเป็นตัวช่วยสำคัญ ชูธงเสื้อเหลืองฟาดฟันศัตรู วันนี้ศัตรูเสื้อแดงพ่ายแพ้ หมดทางสู้ (ยกเว้นแต่จะลงไปรบใต้ดิน ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้สนธิแล้ว) สิ่งที่ต้องการที่สุดคือความสมานฉันท์ ทำให้เสื้อแดงกลายเป็นคนปกติ ไม่เจ็บไม่แค้น ประเด็นความยุติธรรมและเท่าเทียมจึงต้องแสดงให้เสื้อแดงเห็นบ้าง หากยังปล่อยให้สนธิและพรรคพวกยังด่าเสื้อแดงปาว ๆ ฝ่ายเดียวนี่ บ้านเมืองไม่มีวันสงบ คนทำเลยฉวยโอกาสนี้กำหราบสองสี ด้วยการมอบความยุติธรรมบางอย่างให้เสื้อแดงซะบ้าง

แล้วใครยิงสนธิน่ะหรือ

ลองดูคดีเหล่านี้นะ ใครกันที่กล้ายิงชาญชัย ลิขิตจิตถะ ใครกันที่จะลอบวางเพลิงซีพีกับ ธ.กรุงเทพ ถ้าตอบว่าเสื้อแดง ถามว่าเสื้อแดงมีศักยภาพเช่นนั้นหรือ แต่สองกรณีนี้ก็มีเรื่องน่าสงสัย ฆ่าคนระดับองคมนตรี มือปืนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่ใช่มืออาชีพและมีแค่ .38 จะลองวางเพลิงอาคารสำคัญ ค่าจ้างแค่ 5000 ลำพังปืนที่ยึดได้จากตัวโจรก็มูลค่าหลายหมื่นแล้ว ทั้งสองกรณีรับสารภาพง๊ายง่าย แล้วเรื่องก็เงียบหาย

คิดกันนะครับว่าใครกันที่กล้ายิงสนธิ

วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2552

ช่างบังเอิญ..คืนนี้ CINEMAX ฉายหนังเรื่อง SPARTACUS

ไม่น่าเชื่อครับ ทางทรูวิชั่นส์และช่อง CINEMAX วางโปรแกรมฉายหนังเก่าเรื่อง SPARTACUS ในเวลาไพรม์ไทม์ 2 ทุ่มเมืองไทย นับว่าน่าแปลก เพราะหนังโบราณอย่างนี้ ปกติเเล้วจะฉายเวลากลางวันให้คนแก่ดู ช่วงเวลาเด่นต้องเป็นหนังใหม่ลาโรงไม่เกินหนึ่งปี แต่วันนี้คิดยังไงไม่รู้ ถึงเอาหนังที่นำแสดงโดยเคิร์ก ดักลาส พระเอกคางบุ๋มมาให้ชม

และก็บังเอิญที่ สถานการณ์ในหนังมีหลายตอนช่างคล้ายกับเรื่องที่เราคุ้น ๆ อยู่พอดี

ใครพลาด 2 ทุ่มตอนนี้ ชมอีกทีตี 3 ช่องเดิมนะครับ

ไม่แน่ว่า ตี 3 คืนนี้อาจได้ดูเรื่องจริงที่น่าติดตามยิ่งกว่าหนังทาสลุกขึ้นปลดแอกอาณาจักรโรมันโบราณเรื่องนี้ก็ได้

สปาร์ตาคัสเป็นทาสครับ เป็นทาสของกรุงโรมเมื่อประมาณ 2100 ปีก่อน ที่จู่ ๆ รวบรวมพลได้เป็นแสน ก่อกบฏไม่ยอมรับอำนาจคณาธิปไตยของโรม แต่ก็โดนปราบตายสิ้นตามฟอร์ม เพราะกองทัพคนจนของเขานั้นเทียบไม่ได้เลยกับกองทัพที่แข็งแกร่ง อาวุธพร้อมของโรม กระนั้นก็ตาม ชื่อเสียงเขาก็คงเป็นตำนานมาถึงทุกวันนี้ เป็นหนึ่งในตำนานนักสู้ที่รู้ว่าด้อยกว่าทุกอย่างแต่ก็ยังกล้าสู้ ไม่ใช่เพื่อำนาจ แต่เพื่ออิสรภาพปลดแอกตนเอง

โรมยุคนั้นอยู่ภายใต้ระบอบคณาธิปไตย ที่วุฒิสภาเป็นใหญ่ คนชั้นสูงในนั้นก็เล่นเกมกันทั้งภายนอกคือกดหัวไพร่ทาสเอาไว้ และภายในคือช่วงชิงอำนาจกันเองระหว่างพวกศักดินาด้วยกัน งานนี้วางแผนกันถึงขนาด ปูทางให้ทาสเข้มแข็งลุกฮือทั่วประเทศ เพื่อที่บางคนจะได้เป็นฮีโร่ในการปราบกบฏ และจรวบอำนาจรัฐในบั้นปลายเสียดเวย

งานนี้ขุนศึกผู้บ้าอำนาจของโรมก็คือ แครสสัส (นิยมรักร่วมเพศเสียด้วย) แครสสัสเกลียดสปาร์ตาคัสเป็นการส่วนตัวข้อหาทำตัวนิยมในหมู่ชน จะผยองเป็นตำนานเทียบเขา เขาวางแผนให้สปาร์ตาคัสไม่สามารถเดินทัพหนีออกทะเลไปลี้ภัยนอกประเทศได้ ทหารล้อมกรอบทุกด้าน สปาร์ตาคัสถูกยั่วยุให้ใช้ความรุนแรง ต้องยกพลขึ้นรบกับกองทัพโรม กลายเป็นคนที่ชาวเมืองหวาดกลัว หาว่าเป็นฆาตกร นักทำลายล้าง ไปโน่น

แครสสัสบอกเองว่าเขาต้องการทำลายตำนานของสปาร์ตาคัส ให้ไม่ได้รับการยอมรับในหมู่ทาสว่างั้นเถอะ แต่เขาจำสปาร์ตาคัสไม่ได้ เมื่อชนะศึกเเล้วจับเชลยมาทั้งหมด แล้วยื่นเงื่อนไขให้กองทัพทาสว่าชี้ตัวสปาณ์ตาคัสมา แล้วจะปล่อยไป ทาสเป็นพันกลับรวมตัวปกป้องสปาร์ตาคัสไม่เปลี่ยนใจ แครสสัสเลยจับตรึงกางเขนซะหมดเลย ดื้อดีนัก

แครสสัสพยายามยึดของสปาร์ตาคัส เช่นเมียเป็นต้น แต่โดนเมียสปาร์ตาคัสตอกหน้าใส่ ว่าที่แครสสัส ทำอย่างนี้เพราะกลัวสปาร์ตาคัส ใช่ไหมล่ะ กลัวว่าเขาจะเป็นขวัญใจชาวทาส จนนำไปสู่การลุกฮือทั่วประเทศ อิจฉาที่เขาจะมีชื่อเสียงโด่งดังกว่า

ตอนท้ายแครสสัสเออกว่าใครคือสปาร์ตาคัส เขาจึงให้สปาร์ตาคัสดวลกับหนุ่มคนนึง ทะลึ่งมีเงื่อนไขว่าคนชนะต้องโดนตรึงกางเขนตายอย่างทรมาน สปาร์ตาคัสรีบฆ่าหมอนั่นโดยเร็ว เพื่อที่จะไม่ให้เขาเจ็บปวดจากการถูกตรึงกางเขน แล้วสปาร์ตาคัสก็คำรามใส่หน้าแครสสัสว่า แบบนี้ใช่ไหมชัยชนะที่ท่านต้องการ แต่ชายผู้นี้ตายวันนี้ก็จริง แต่วันรุ่งขึ้นจะมีคนแบบนี้อีกเป็นล้านอกมาต่อต้านท่าน

หนังจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของชนชั้นต่ำสุดของสังคม แต่พวกเขาเก็บความแค้นไว้ เชื้อพันธุ์ของสปาร์ตาคัสอยู่รอดในตอนจบ ส่วนแครสสัสนั้นก็ลายออก กลายเป็นผู้เผด็จการของโรมและขจัดพวกที่ไม่เห็นด้วยในสภาด้วยอำนาจ เขาหาตัวแทนมาสืบทอดอำนาจและเป็นมือขวาของเขา นั่นคือคือจูเลียส ซีซาร์ ชนชั้นสูงเหมือนกัน ที่ต้นเรื่องก็ดูดี ตอนท้ายเรื่องก็คือคนหักหลังคนเพื่ออำนาจ และคน ๆ นี้จะใหญ่โตสืบทอดระบอบคณาธิปไตยกึ่งเผด็จการต่อไปในอาณาจักรโรมัน อย่างที่เรารู้กันดีอยู่ในประวัติศาสตร์

ปล.เพิ่มเติมครับ ใครไม่ได้ดู วันนี้ยังทันครับ เที่ยงวันที่ 16 ช่อง CINEMAX ฉายครับ ยาว 3 ชั่วโมงเศษ หากพลาดคราวนี้ต้องหาซื้อมาดูกันเองแล้วครับ

วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2552

อภิสิทธิ์...ลาออกเถอะ

สงครามประชาชนจะเกิดแล้ว คุณจะอยู่ในอำนาจต่อไป เพื่อให้มีการนองเลือดหรือ เอางั้นจริงง่ะ...

เอาตรรกะนี้ไปคิดนะครับ

ถ้าคุณหวังว่าอยู่ดี ๆ เสื้อแดงจะเลิกชุมนุมไปเอง คุณก็เห็นอยู่แล้วจะเขาจะเลิกหรือไม่

ถ้าคุณหวังจะเอากฏหมายบังคับใช้ให้เขาเลิก ก็ต้องยิงกัน มีคนเจ็บคนตาย คุณจะยอมทำบาปงั้นหรือ

สมมตินะครับ สมมติว่าคุณเป็นฝ่ายถูก และเสื้อแดงเป็นฝ่ายผิด แล้วไงครับ จะจัดการเขาด้วยอะไร

- ด้วยกำลัง ก็ต้องมีคนเจ็บคนตายดังว่า ถึงจะเป็นคนเสื้อแดง เเล้วคุณไม่ห่วงชีวิตของเขาบ้างหรือ
- ยื้อเย่อกันอยู่อย่างนี้ บ้านเมืองก็พังพินาศไปเรื่อย แล้วประเทศชาติมันจะดีหรือ

ถ้าเกรงว่าลาออกไปแล้ว สถานการณ์ก็ไม่จบ รัฐบาลใหม่ก็จะโดนกฏหมู่ต่อต้าน หรืออะไรสรรหามา

ก็คิดเสียอย่างนี้นะครับ ว่าลาออกแก้สถานการณ์ที่จะรุนแรงวันนี้ไปก่อน วันหน้ายังมีเวลา

คุณจะเสียอะไรนักหนา ในเมื่อระบอบอมาตยาธิปไตยครองประเทศนี้มานาน ไม่ล้มไปง่าย ๆ หรอก แล้วเสื้อแดงก็ไม่สามารถถอนรากระบอบนี้ได้ในทางรูปธรรม (สมมติว่าพลเอกเปรมและคนอื่น ๆ ลาออก ระบอบนี้ก็ใช่ว่าจะล้มครืน)

ที่เสียไปชั่วคราวคือ การเป็นรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคร่วม หมดโอกาสทำสัญญากู้เงินดอกเบี้ยสูงจากต่างชาติ หมดโอกาสควบคุมสื่อ หมดโอกาสขายโรงงานยาสูบ หมดโอกาสอ่อนข้อให้เขมร หรือหมดโอกาสบิดเบือนงบประมาณกรมอาชีวศึกษา ก็แค่นั้น

แต่โอกาสเหล่านี้อาจจะกลับมา ถ้าคุณไปใช้กลวิธีต่าง ๆ จนมาเป็นรัฐบาลสมัยหน้าได้ (แต่อย่าเผลอใช้กลวิธีแบบเดิมอีกล่ะ เดี๋ยวเสื้อแดงรับไม่ได้ ก็ออกมากันอีก)

วันนี้เหตุการณ์เฉพาะหน้า มันหมดที่จะคิดแล้ว ว่าใครชั่วใครเลว ใครถูกใครผิด

ขืนบังคับใช้กฏหมายแรง ๆ ก็เท่ากับบีบให้มีการยิงกัน ฆ่ากัน

ถ้าคุณไม่ซาดิสท์อยากเห็นเสื้อแดงตาย คุณต้องทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้ง่าย ๆ เลย ...คือลาออก

ไฟกำลังแรง อย่ามัวแต่โหมด้วยวาจา เรียกแต่คะแนนนิยมฝ่ายเดียวกันอยู่เลยครับ

วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2552

วิเคราะห์8-12 เม.ย.เสื้อแดงอาการหนัก เจอ IO ฝ่ายรัฐเข้าเต็มอก

ส่วนหนึ่งเพราะเสื้อแดงพลาดเองวันที่ 9 คนเรือนแสนจึงไม่กลับมาในวันนั้น พวกเขาเป็นคนกรุงเทพที่มาเย็น ๆ และวันหยุดทั้งนั้น

ที่พลาดเองคือ
1.คืนวันที่ 8 คนเยอะแล้วไม่แตกหัก

2.แกนนำไม่ใช้ความรุนแรง แถมเมื่อเกิดความรุนแรงแบบโตโยต้าชนเสื้อแดงเช้าวันที่ 9 ซึ่งน่าจะจุดติดอารมณ์ม็อบได้ แกนนำก็สั่งดับ โดยการเรียกร้องตำรวจใช้วิธีทางกฏหมายเสียเอง

3.ในเมื่อจุดติดอารมณ์ผู้ชุมนุมยังไม่ได้ การที่แกนนำอย่างจตุพรพูดว่าชุมนุมไปอีกเป็นร้อยวัน อำมาตย์ก็ไม่ออก ยิ่งทำให้ฝ่ายแดงท้อใจ

4.ที่หนักสุดคือ สุทิน คลังแสง พูดคล้ายจะชวนให้คนเสื้อแดงออกลุยออกเผาให้เหมือนเหล่าพันธมิตร คนก็เริ่มฉุกคิด และไม่กลับมาร่วมชุมนุม กลายเป็นกองเชียร์เหมือนเดิม

5.เมื่อคนน้อยแค่ราวหมื่นคน ดันแยกการปฏิบัติ ไปปิดล้อมที่โน่นที่นี่ ซึ่งไร้ค่าทางยุทธการ เช่น พรรคประชาธิปัตย์ ศาลรัฐธรรมนูญ ผลคือเสียกำลังเปล่ ๆ

6.การตกกะไดพลอยโจนตามกลุ่มแท็กซี่ไปปิดอนุเสารีย์ชัยนั้นยิ่งถลำ ชัยภูมิก็แย่ รถก็ติด เสื้อแดงเสียชื่อ


ที่เจอ IO หรือการปฏิบัติการข่าวสารของรัฐเข้าไปคืออะไร

1.เจอ"การลวง" (Deception) หนึ่งในวิธีการต่อต้านข่าวกรองเข้าไป ทำให้ยอมทิ้งชิ้นเนื้อหน้าบ้านสี่เสา ไปหาเนื้อใหม่ในที่ร้างอย่างเช่นศาลรัฐธรรมนูญและพระคประชาธิปัตย์ ผลคือการกระจายกำลังอย่างที่เห็น

2.เมื่อพลาดท่าปิดถนนก็เจอการใช้สื่อของรัฐ ปลุกข่าวว่าเสื้อแดงปิดกั้นทางเข้าโรงพยาบาลไปด้วย ทำเอาคนจำนวนมากไม่พอใจเสื้อแดงที่ทำผลกระทบต่อคนป่วย

เลยเกิดเหตุการณืแบบที่ สาทร คนที่นั่นจำนวนหนึ่งเดือดร้อนต่อการกระทำของเสื้อแดง (แต่กลับไม่เดือดร้อนต่อการกระทำของเสื้อเหลืองปีก่อน)+กับการประโคมโหมภาพผู้ร้ายของสื่อ เลยแสดงออกมาอย่างที่เห็น

3.รัฐใช้สงครามตัวแทนอย่างเต็มที่ โปรดสังเกต 2 จุด

- บอร์ดราชดำเนิน มีล็อกอินใหม่ ๆ เข้ามามาก อ้างว่าเป็นกลาง แต่ด่าแดงหลังปิดถนนอย่างหนัก นี่คือแผนยึดสื่อกระแสรอง
-เสื้อน้ำเงินที่พัทยา และราษฏรชูป้ายต้อนรับอาเซียน คนของใคร สังกัดไหนสืบได้ไม่ยาก


ผลก็คือ
1. แกนนำบนเวทีทำอะไรไม่ได้มากนอกจากรักษาจำนวนยอดผู้ชุมนุมทำเนียบ
2.ส่วนย่อย ๆ ของแดง จะเริ่มมีอารมณ์และใช้ความรุนแรงตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามในหลาย ๆ จุด
3.militia ที่แอบปลุกขึ้นมาของฝ่ายตรงข้ามเสื้อแดงจะทำร้ายคนเสื้อแดงในหลาย ๆ จุด
4.ประชาชนที่ไม่ใช่แดงเข้มอาจกลัวต่อการชุมนุม ไม่มาเข้าร่วม บางพวกที่แดงอ่อนก็จะเปลี่ยนใจคล้อยตามสื่อ ขณะที่ประชาชนเสื้อเหลืองอยู่แล้วยิ่งไมพอใจเสื้อแดงหนักขึ้น เหลืองอ่อนเป็นเหลืองเข้ม คนเหล่านี้อาจปะทะกับเสื้อแดงในหลาย ๆ จุด

5.ถ้าทักษิณใช้เงินทุ่มซื้อมวลชนจริงอย่างที่พลเอกพิจิตรว่า เขาก้ต้องมีไม้ตายมากกว่าปีกบุ๋นอย่างแกนนำบนเวที เราจะได้เห็นกันครับว่าจริงหรือไม่

วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2552

ทุเรศใจจริงพับพ่า

อ่านข่าวนี้แล้วสะอึก

เมื่อ ๔ เม.ย.๕๒ นายกุย กวง โฆษก กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาจะแถลงข่าวและกำหนดการที่จะประท้วงต่อการรุกรานของไทย ทั้งนี้ ตามที่ฝ่ายไทยยืนยันว่าพื้นที่เกิดเหตุปะทะเป็นดินแดนของไทย ซึ่งการยืนยันดังกล่าวไม่มีหลักฐานทางกฎหมายและมีเจตนาในการรุกราน ทั้งหมดเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญา ปี ๒๔๔๗ และแผนที่ที่คณะกรรมการร่วมฝรั่งเศส-สยามได้จัดทำขึ้น รวมทั้งคำตัดสินของศาลโลกเมื่อปี ๒๕๐๕ ให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงถือเป็นการรุกราน กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง

เขมรมันกำลังทำเพื่อชาติของมัน ซึ่งถ้าเป็นชาติไหนในโลกก็ต้องทำอย่างนี้

แต่เทียบกับของเรา ที่นายธฤติ จรุงวัฒน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทย (ย้ำว่าของไทย) ประกาศว่าไทยจะไม่ประท้วงกัมพูชากรณีโจมตีและทำให้ทหารไทยตาย 2 เจ็บนับสิบ สอดคล้องกับพวกที่ไม่เจ็บร้อนแทนทหารชั้นผู้น้อยที่ตาย พวกนี้พากันพูดว่า นั่นแค่เรื่องเข้าใจผิด

เขมรมันเสริมกำลังชายแดนอย่างต่อเนื่อง งานนี้ถึงมันจะไม่เอาคืน แต่มันก็ยึดพื้นที่ทับซ้อนถาวรแน่ แล้วคนของไทยมัวทำห่าอะไร

1.นายกรูปหล่อ ทะลึ่งไปหล่อที่เชียงใหม่ดูลำไย สบายใจเฉิบ
2.ผู้มีหน้าที่ด้านความมั่นคงไปกินสุกี้โคราช แล้วมีข่าวว่าเตรียมกำลังพรักพร้อม เปล๊า เปล่าไปชายแดนเผชิญหน้าอริราชผู้รุกราน แต่จะลงมาอัดคนรักประชาธิปไตยในกรุงเทพให้น่วม ให้สมกับที่ทำให้...ขุ่นเคืองใจ
3.ไอ้กุ๊ยบ้า ตัวชนวนความขัดแย้ง ไปไหน โน่น กินข้าวร่าเริงกับพันธมิตรพัทยา ในหัวมีอยู่ 2 เรื่องคือจะเล่นงานทักษิณอย่างไรดีกับจะกราบตีนข้างไหนฮุนเซ็นจึงจะเหมาะ (กราบไปข้างนึงแล้ว ท่านแกงสเตอร์ก็ยังไม่หยุดเล่นงานไทย)
4.ฝ่ายรัฐบาลไม่ต้องแก้ปัญหาไทย-เขมร เลยนะครับ ใส่ไฟสนุกดีใช่ไหม ทั้งสุเทพทั้งเทพไทต่างบอกว่าที่มันเกิดอย่างนี้เพราะทักษิณร่วมฮุนเซ็นชักใยอยู่ที่พนมเปญ พูดอย่างนี้ก็ต้องเตรียมรบนะครับ ไม่ใช่หวังให้เสื้อแดงไปรบให้ ส่วนเสื้อเหลืองที่เย้ว ๆ ศรีสะเกษปีกลาย ปีนี้หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ คงไม่รบชิงดินแดนให้พวกคุณเช่นกัน

วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552

ลูกไทยตายไปสอง ไทยยังมองหน้าข้าศึกแล้วยิ้มดีได้อีกหรือ

เข้าใจครับว่า ในทางยุทธศาสตร์ เราต้องพยายามทำดีกับเพื่อนบ้าน แต่ถ้าเพื่อนบ้านทำอย่างนี้ เราต้องสั่งสอน ไม่งั้นเราจะมองหน้าลูกเมียของเพื่อนร่วมชาติที่ต้องตายไปได้ยังไง

กษิต อย่าเก่งแต่ทำเรื่องเล็ก ๆ อย่างตามด่าตามจับคนโฟนอินอยู่เลย งานนี้ต้องทำอะไรซะอย่างแล้วกับฮุนเซ็น อย่าไปหงอเขาล่ะ ผมรู้ว่าคุณชอบคุยเขื่องว่าตนเองเก่งอย่างโน้นมีความสามารถอย่างนี้ ถึงแม้ไม่เชื่อคุณ แต่ก็ไม่อยากเห็นคุณถูกคนเขาด่าอยู่ทุกวันว่า ไม่แน่จริง ลับหลังก็ดูถูกเขา ต่อหน้ากลับยอมเขาทุกเรื่อง งานนี้ถ้าคุณยอมหงอเขาอีก คุณก็...เต็มที

ผู้บังคับบัญชาของกองทัพคงกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง เกียรติภูมิของชาติ เกียรติศักดิ์ของนักรบ หยาดน้ำตาร้องขอความยุติธรรม คนไทยหวังพึ่งการตัดสินใจของท่าน โปรดสั่งการทางที่ล้างความขมขื่นของเรา อย่าลืมเลือดไทยที่ยอมตายเพื่อท่าน อย่าให้เขาตายฟรี

รัฐบาล..โอกาสดีของท่านแล้ว หลายชาติเขาแก้ปัญหาเสื่อมความนิยมในชาติ ไปในทางที่แสดงความห้าวหาญกับศัตรูผู้รุกราน กรณีแบบนี้ในประวัติศาสตร์มีทั้งดีทั้งแย่ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ถ้าท่านเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรมจริง การแสดงออกโดยไม่ยอมเป็นรองเขมรคราวนี้จะทำให้ท่านได้คะแนนนิยมเพิ่ม แต่ถ้าท่านไม่ทำอะไรเลย หรือเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย คนต่อต้านท่านจะมีเพิ่มขึ้น