วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ทหารรับใช้บ้านผู้ใหญ่

การเสียชีวิตของพลทหารทำงานบ้านแม่ทัพภาคที่ 1 ในห้วงสงกรานต์อาจนำไปสู่การตั้งคำถามถึงระบบการเกณฑ์แรงงานฟรีเอาไปใช้ประโยชน์ส่วนตนของอภิสิทธิชน แต่เมื่อมองลึกลงไปถึงสภาพความเป็นจริงของสังคมที่ไม่เท่าเทียมกัน ระบบนี้มีประโยชน์ต่อทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย ผู้ที่เกี่ยวข้องพอใจ เพียงแต่ว่าการจัดการในระบบต้องไม่ใช่เรื่องที่กดขี่กันจนน่ารังเกียจ

คนที่คิดถึงหลักความเท่าเทียมกันอาจจะไม่ชอบใจเมื่อได้ยินเรื่องพลทหารรับใช้ หรือผู้ใหญ่ที่มิใช่ทหารอาจจะขุ่นใจว่าตนเองทำไมไม่มีสิทธิเช่นนั้นบ้าง แต่ระบบทหารที่คำว่า ”นาย” มีความหมายเหมือนเจ้าชีวิตนั้นยังคงมีอยู่คู่สังคมไทยเสมอ สังคมทหารหลายๆ ประเทศแม้แต่ของต่างชาติที่เจริญแล้ว ทหารประจำบ้านพักผู้บังคับบัญชาก็มี ทำหน้าที่กันหลากหลาย บางคนแค่ขับรถให้ บางคนเลี้ยงหมา บางคนทำสวน บางคนทำงานบ้าน บางคนก็เหมาหมด

ผู้ใหญ่ฝ่ายทหารของไทยนั้นมีความจำเป็นที่ต้องใช้ทหารเหล่านี้พอสมควร ตั้งแต่นายร้อยจบใหม่ประจำหมวดก็มีทหารรับใช้ตามบ้านพักแล้ว การมีพลทหารประจำบ้าน ทำให้ผู้ใหญ่ไม่ต้องพะวงเรื่องจิปาถะที่ไม่เกี่ยวกับการยุทธ เอาเวลาและความคิดไปทุ่มเทให้แก่งานอย่างเต็มที่ โดยพลทหารผู้เสียสละดูแลเรื่องที่ดูเหมือนเล็กน้อย แต่สำคัญไม่เบาเหล่านี้ให้ เมื่อผู้หมวดเติบโตใหญ่ขึ้นไป ความจำเป็นที่ต้องมีคนที่ไว้ใจดูแลบ้านและครอบครัวนั้นมีมากขึ้น เมื่อเกษียณแล้วบารมีที่มีอยู่ก็พลอยทำให้รุ่นน้องที่คุมกำลังในกองทัพส่งพลทหารมาช่วยดูแล


พลทหารบ้านผู้ใหญ่เองก็ล้วนแต่เป็นผู้สมัครใจทำหน้าที่นี้ เพราะได้ประโยชน์จากการเป็นทหารรับใช้เช่นกัน ในชั้นต้นพวกเขาอาจไม่อยากถูกเกณฑ์เป็นทหาร เมื่อมาอยู่ในกองพันเจอสภาพการฝึก การเข้าเวรยามและการออกรบ พวกเขาอาจจะรู้สึกว่าตนเองไม่เหมาะกับเรื่องเหล่านี้ จึงสมัครใจทำงานที่เบากว่า เครียดและเสี่ยงน้อยกว่า ได้เบี้ยเลี้ยงครบเมื่อลากลับบ้าน นับเป็นการสมประโยชน์กันระหว่างผู้ใช้และผู้รับใช้แรงงานในสังคมอุปถัมภ์นี้


เมื่อพลทหารถูกส่งตัวมาอยู่ในบ้านของทหารผู้ใหญ่ทั้งที่อยู่ในและนอกราชการ พวกเขาอาจจะอยู่ในฐานะกึ่งคนใช้ แต่พวกเขาก็มีอิสระพอสมควร ขึ้นอยู่กับนายว่าใจดีเพียงไร จริงอยู่พวกเขาอาจต้องรับใช้ครอบครัวของนายด้วย แต่สังคมยุคนี้ไม่ใช่สังคมละครทีวี หากมีการกดขี่เอาเปรียบเกินไป พลทหารพร้อมที่จะขอกลับกองพันได้เสมอ เช่นเดียวกับฝ่ายนายก็อาจเปลี่ยนตัวพลทหาร หากไม่ถูกใจ นายต้องเอื้ออาทรกับลูกน้องให้มาก หากพลทหารเสียชีวิตในบ้าน อย่างน้อยต้องเป็นเจ้าภาพงานศพ ให้เงินช่วยเหลือและแสดงความเสียใจต่อพ่อแม่เขาด้วย

คมชัดลึก 4 พ.ค.52

6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ได้นำบทความที่ผมเขียนในเครือเนชั่นมาลงนานแล้ว วันนี้เอาเสียหน่อย โอกาสหน้าจะเอาเรื่องอื่น ๆ ที่นอกเหนือการเมืองในประเทศมาลงบ้างครับ

    ตอบลบ
  2. สวัสดีครับ คุณเรือรบ

    ติดตามอ่านเสมอครับ

    เรื่องทหารรับใช้บ้านผู้ใหญ่ ที่เยอรมนีก็เป็นแบบนี้เช่นกัน
    เห็นจริงตามนั้นครับ
    ขอบคุณสำหรับบทความนะครับ

    ขอให้คุณเรือรบและครอบครัว มีความสุขมากๆกับชีวิตประจำวันนะครับ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ24/5/52 09:02

    เรื่องนี้เดี๋ยวก็หายไปกับสายลมอีกแร่ะ

    สภาพศพถูกทุบซะน่วมอย่างนั้น ทหารผู้ใหญ่ไม่มีความสงสัยมั่งเลยเหลอ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ26/5/52 08:11

    อยากมีทหารรับใช้บ้างจัง ต้องทำยังไงนี่

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ26/5/52 21:31

    นั่นสิครับ พี่โจ้ ทหารรับใช้นั่นคเขาก็คือประชาชนชาวไทยผู้มีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญเต็มขั้นนะครับ การเสียชีวิตแบบมีเงื่อนงำอย่างที่ไม่มีใครสืบเสาะและเปิดเผยได้ นับว่าเป็นการทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างยิ่งครับ

    ผม่คิดว่าพลทหารนายนั้นจะเสียชีวิตแบบตามที่สรุปเอาง่าย ๆ ว่าลื่นล้ม แต่ก็ยังไม่ปักใจคิดว่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีที่เขาส่ง sms บอกแฟนเรื่องนายกมาพักที่บ้านหลังนี้ ดังนั้น ความจริงต้องถูกทำให้กระจ่างครับ

    แต่ก็อีกนั่นแหละ ในเมื่อไม่มีใครสักคนพูดอะไรมากไปกว่าที่พูดในตอนนี้ และไม่มีหลักฐานอะไรที่จะบ่งชี้เรื่องราวที่ชัดเจนกว่านี้ วิญญาณของพลทหารนายนี้คงยังไม่สงบแน่นอนครับ

    ติ่ง

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ

    ขอบคุณคำอวยพรของคุณเชษฐาครับ ขอให้ครอบครัวคุณเชษฐา ประสบความสุขเช่นกันครับ

    น้องติ่งพูดเรื่องวิญญาณแล้วบรื๋อว์ว์ คนไหนมือเปื้อนเลือดทั้งทางตรงทางอ้อมในรอบ 3 ปีมานี้ ไม่เป็นสุขหรอกครับ ไม่งั้นเราจะเห็นพวกคนใหญ่คนโตบ้าดูหมอ บ้าสะเดาะเคราะห์ งมงายเรื่องไม่เป็นเรื่องอกข่าวกันอย่างน่าหัวร่อหรือครับ

    ตอบลบ