วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552

ข้อคิดเรื่องชายแดนใต้ของซิดนีย์ โจนส์

วันก่อนได้ไปฟังบรรยายของมิสซิดนีย์ โจนส์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะกลุ่มเจไอ ที่กระทรวงการต่างประเทศมา น่าสนใจมาก เพราะนอกจากจะได้อัพเดทสถานการณ์และแง่คิดเรื่องการก่อการร้ายแล้ว ยังจะได้ทราบสิ่งที่ฝรั่งระดับผู้เชี่ยวชาญมองเข้ามายังสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ของไทยอีกด้วย

มิสโจนส์ ก็เหมือนนักวิชาการต่างชาติคนอื่นที่มักออกตัวไว้ก่อนว่าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงไม่กล้าที่จะอธิบายมากนักว่าเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะอะไรกันแน่ แต่เธอก็ได้ยกเอาข้อเท็จจริงที่เธอมี ต่อจิ๊กซอว์ออกมา พร้อมทั้งเสนอทางออกทั่วไปได้เป็นอย่างดี

โดยทั่วไปแล้วสถานการณ์ก่อการร้ายในภูมิภาคลดลง เพราะผู้ก่อการร้ายกำลังอยู่ในภาวะรวบรวมกำลังใหม่ หลังจากสูญเสียไปเยอะและที่สำคัญคือ ขาดแรงจูงใจในการปฏิบัติการ แต่มิสโจนส์ชี้ว่าสถานการณ์อาจพลิกผันได้ ถ้าพวกเหล่าร้ายมีผู้นำเจ๋ง ๆ มีการช่วยเหลือจากตัวเลวโพ้นทะเล และมีการรณรงค์รัฐปัตตานีขึ้นมา

ภาพสถานการณ์หลังที่เกี่ยวกับไทยนี้ เธอยังไม่มีข้อมูลมากนัก แต่ก็น่าเป็นห่วงที่ผู้ก่อการร้ายระดับล่างบางคนที่ถูกจับได้ซัดทอดว่ามีความพยายามต่อท่อระหว่างผู้ก่อการร้ายภูมิภาคกับพวกระดับโลกให้สนใจปัญหาในไทยมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าพวกระดับอัลเคด้านั้นยังไม่ใส่ใจซักเท่าไหร่ การณรงค์ทางเว็บที่เมื่อต้นปีก่อนค่อนข้างแรง ก็มอด ๆ ไป

อย่างไรก็ตาม การยังคงมีอยู่ของศูนย์ส่งกำลังบำรุงอาเจ๊ะที่สตูลและพวกมาเฟียลักลอบอาวุธ ตลอดจนการเผยแพรอุดมการณ์ในสถานศึกษาหลายแห่งในเอเชียใต้และตะวันออกกลางที่นักเรียนไทยไปเรียน ล้วนแต่ทำให้ฝ่ายความมั่นคงของไทยวางใจไม่ได้

นอกเหนือจากการสร้างความโปร่งใส คนของหลวงต้องไม่ทุจริตหรือทารุณคนพื้นที่แล้ว มิสโจนส์ เสนอให้จัดทำโครงการล้างสมองพวกผู้ก่อการร้ายที่พอจะแก้ไขได้ โดยมุ่งเน้นที่ในคุกเป็นสำคัญ โครงการนี้ได้ผลมาแล้วในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์

นอกจากนี้ ถึงจะมีโครงการบุ๋นมากมาย แต่ก็อย่าลืมการใช้กำลังทหารเข้ากดดันผู้ก่อการร้ายด้วย เธอชี้ว่าอาเจ๊ะที่กลับมาสงบได้ในทุกวันนี้นั้นไม่ใช่เพราะฝ่ายแบ่งแยกดินแดนโดนสึนามิถล่มร่วงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะกองทัพอิเหนาอัดซะจนน่วมด้วย ตราบใดที่ผู้ก่อการร้ายตระหนักว่าสู้ต่อไปก็ไม่มีวันชนะแล้ว มันก็จะหันมาแสวงหาการเจรจาเอง ขณะเดียวกันรัฐบาลของเราก็ต้องรู้ให้ได้ด้วยว่าควรจะเจรจากับใคร

เอกสารตีพิมพ์ น.ส.พ.คมชัดลึก 22 ก.พ. 52

3 ความคิดเห็น:

  1. "ตราบใดที่ผู้ก่อการร้ายตระหนักว่าสู้ต่อไปก็ไม่มีวันชนะแล้ว มันก็จะหันมาแสวงหาการเจรจาเอง"
    ใช่ครับ นี่แหละครับคีย์เวิร์ดสำหรับการเอาชนะฝ่ายตรงข้ามทุกกรณี...เป็นผลทางจิตวิทยาที่เกิดจากยุทธศาสตร์ทางการทหารและการเมือง

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ10/3/52 13:49

    สวัสดีครับ คุณโจ้

    สบายดีนะครับ

    เห็นคุณโจ้ลบเอ็นทรี่ที่เว็บบล๊อกโอเคเนชั่นหมดแล้ว คงไม่คิดจะกลับมาอีกแล้วแน่ๆ
    น่าเสียดายนะครับ เพื่อนๆบ่นกันหลายคนเลย บ่นว่าคิดถึงคุณโจ้นะครับ

    อ่านบทความนี้แล้ว เห็นด้วยครับ

    "คนของหลวงต้องไม่ทุจริตหรือทารุณคนพื้นที่"

    "เธอชี้ว่าอาเจ๊ะที่กลับมาสงบได้ในทุกวันนี้นั้นไม่ใช่เพราะฝ่ายแบ่งแยกดินแดนโดนสึนามิถล่มร่วงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะกองทัพอิเหนาอัดซะจนน่วมด้วย ตราบใดที่ผู้ก่อการร้ายตระหนักว่าสู้ต่อไปก็ไม่มีวันชนะแล้ว มันก็จะหันมาแสวงหาการเจรจาเอง ขณะเดียวกันรัฐบาลของเราก็ต้องรู้ให้ได้ด้วยว่าควรจะเจรจากับใคร"

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณทั้งสามท่านนะครับ ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น

    ผมจะนำลงเรื่องหนัก ๆ ในนี้เรื่อยไปครับ

    ส่วนเรื่องเบา ๆ รอหน่อยนะครับ ช่วงนี้งานยุ่งมาก

    ผมคงไม่กลับไปแล้วจริง ๆ ทั้งที่เจอคนจำนวนไม่น้อยที่เดินเข้ามาหาผมแล้วบอกว่ารู้จักผมจากบล็อก ผมก็บอกว่าเลิกเขียนแล้ว แต่ว่าเอาไว้เปิดที่ bloggang แล้วจะรณรงค์เต็มที่ต่อไปครับ

    ตอบลบ