วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552

พม่ากับการเร่งผนึกรวมกลุ่มชาติพันธุ์

หลังจากปล่อยไว้เป็นหอกข้างแคร่มาระยะหนึ่ง กองทัพพม่าก็ตัดสินใจปฏิบัติการกดหัวมิตรด้วยกำลัง โดยเริ่มที่กองกำลังโกก้าง ติดชายแดนจีนเสียก่อน แต่การศึกเพื่อรวมชาติให้ทันก่อนปี 2553 ไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจชักพาพม่ากลับไปยังจุดที่เหมือนเช่นที่เป็นในกว่ากึ่งศตวรรษที่ผ่านมานี้ คือ สงครามแบ่งแยกดินแดนไม่จบสิ้น


สิ่งที่อยู่เบื้องหลังการสู้รบระหว่างพม่ากับกองกำลังเชื้อสายจีน ที่โชคชะตาและอสูรสงครามทำให้ตั้งบ้านแปลงเมืองอยู่ติดพรมแดนพม่า-จีนตั้งแต่ปี 2282 นั้นมีหลายประการ ประการที่เด่นชัดที่สุดคือ พม่าต้องการให้กองกำลังโกก้างและกองกำลังอื่น กลายมาเป็นกองกำลังใต้อาณัติของพม่าอย่างสมบูรณ์ ไม่ใช่ปล่อยไว้เป็นรัฐย่อยในรัฐใหญ่อีกต่อไป เพราะนั่นคืออุปสรรคสำคัญต่อการที่พม่าจะเป็นประเทศอย่างสมบูรณ์และศิวิไลส์ สมดังความตั้งใจแบบจักรพรรดิราชของผู้นำพม่าที่สืบทอดต่อกันมา


บางท่านอาจแย้งว่าสถานะปัจจุบันหรือสเตตัส โคว ที่ต่างฝ่ายต่างเป็นอยู่เช่นนี้ไม่ดีต่อรัฐบาลพม่าหรือ เนื่องจากในรอบสิบปีที่ผ่านมา ถือได้ว่ารัฐบาลทหารประสบความสำเร็จอย่างมากในการผนึกชาติพันธุ์ที่หลากหลายเข้ามาอยู่ใต้อุ้งท็อปบูทได้ในระดับหนึ่ง กองกำลังที่เคยสู้รบกับพม่า ถ้าไม่พ่ายแพ้ยอมจำนน ก็ขอหยุดยิงแล้วไปสร้างเมืองของตนเองให้เจริญรุ่งเรือง มีสันติภาพ ส่วนกองกำลังที่ยังสู้อยู่ คือของ เจ้ายอดศึกและกะเหรี่ยงคริสต์ก็เหลือน้อยง่อนแง่นเต็มที จนเกรงว่าอาจอยู่ไม่พ้นแล้งหน้า แล้วรัฐบาลพม่าจะเปลี่ยนมิตรเป็นศัตรู จะก่อศึกไปเพื่ออะไร ในเมื่อเสถียรภาพและสันติมีอยู่แล้ว อนาคตของการสืบทอดอำนาจหลังเลือกตั้งก็สดใส


การยิ่งเจริญขึ้นของเมืองพวกกลุ่มที่ยังไม่ยอมวางอาวุธหรือแปรสภาพมาเป็นกองกำลังอาสาสมัครรักษาชายแดนของพม่านั้นเป็นปัจจัยวิตกของผู้นำที่ปิ่นมนาว่า หากพวกนี้รุ่งเรืองเข้มแข็งมากขึ้น ไม่เพียงแต่ในอนาคตจะสามารถพัฒนากองกำลังจนทหารพม่าเอาชนะไม่ได้แล้ว ปัจจัยด้านมืดที่ทำให้พวกนี้รวยขึ้น เช่นยาเสพติดและอาชญากรรมต่าง ๆ ก็จะทะลักเข้าสู่พม่าตอนในจนความมั่นคงของประเทศเสื่อมทราม การประสบความสำเร็จของรัฐชายขอบนั้นยังอาจจะเป็นตัวอย่างให้รัฐชาติพันธุ์อื่นหันกลับมาต่อต้านพม่ามากขึ้น อยากปกครองตนเองมากขึ้น เพราะข้อเท็จจริงปรากฏเห็น ๆ ว่าพวกมอญ หรือยะไข่ ไม่ได้เจริญเท่าพม่าตอนใน


คมชัดลึก 1 กันยายน 52

6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ17/9/52 22:03

    อยากให้สงบสันติโดยเร็ว ผลกระทบกับไทยขอให้น้อยลงด้วยครับ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ17/9/52 22:09

    พม่าเป็นชาติที่มีชะตากรรมที่ต้องชดใช้กรรมในขณะนี้และต่อไปโดยไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไรครับ
    รัฐบาลทหารพม่าคงต้องใช้การปกครองแบบเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จอย่างนี้ต่อไป ไม่สามารถเปิดประเทศหรือปลดปล่อยให้ชนในชาติทำอะไรที่เป็นอิสระได้ เพราะความแตกแยกทางเชื้อชาติและสังคมของแต่ละกลุ่มที่เกิดจากการบ่มเพาะของอังกฤษและจากนโยบายของรัฐบาลทหารพม่าที่ผ่านมาด้วยครับ
    เชื่อว่าคงไม่มีทางที่พม่าจะเปิดประเทศได้ แม้ว่าชาติจะเป็นปึกแผ่นแล้วก็ตาม และผู้นำของรัฐบาลทหารพม่าคงพอใจที่จะให้ประเทศมีสภาพเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ภายใต้การสนับสนุนของชาติมหาอำนาจบางชาติเท่านั้นครับ
    แต่ผมยังยอมรับเผด็จการทหารพม่าที่เปิดเผยตัวเองนะครับ ไม่ต้องปิดบังตัวเองอยู่เบื้องหลังความเป็นเผด็จการชักใยรัฐบาลหุ่นเชิดสุดหล่อ (ซึ่งบังอาจมาด่ารัฐบาลทหารพม่าโดยไม่สำรวจตัวเอง) มาตรฐานสองระบบ และการส่งเสริมคนไม่ไดให้ทำร้ายบ้านเมืองครับ

    ติ่ง

    ตอบลบ
  3. เพื่อน ๆ ทุกท่านครับ

    ขอให้ผ่านวันที่ 19 อย่างไม่กะพริบตานะครับ

    ติดตามสถานการณ์ให้ดีครับ ...ทั้งที่กรุงเทพ ศรีสะเกษ และจังหวัดชายแดนใต้

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ18/9/52 16:23

    พี่เรือ ^_^ เชื่อ เรื่อง 19 ก.ย.52 ด้วยเหรอคะ กะไหนปฎิทินบอกว่ามะมีไรไงคะ เหอๆ แล้วอย่างนี้จะให้ดูอย่างไม่กระพบตาทะมาย อิอิ

    น้อง Srinapa แฮ่ๆ มาป่วนๆ

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ18/9/52 16:24

    เม้นท์อยากมากๆ เลยคะ เศร้า! อ่านอย่างเดียวพอแล้วเน๊าะ เม้นท์ลำบากจริงๆ ฮือๆ

    น้อง Srinapa

    ตอบลบ
  6. น้องศรีนภา

    ปฏิทินบอกถูกแล้วจ้ะ ไม่มีทั้งยึดทำเนียบและล้ำแดนเขมร แต่ที่อย่ากะพริบตาคือ พันธมิตรปะทะกับชาวบ้านที่ภูมิซรอล ดีที่ไม่มีเจ็บตายไปมากกว่านี้ แล้วพี่จะเขียนถึงผลพวงของการไปประกาศบนผามออีแดงต่อไป

    สำหรับคุณความเห็นแรก ขอให้เป็นเช่นนั้นนะครับ

    สำหรับน้องติ่ง รัฐบาลพม่าก้ต้องปรับตัว เหมือนรัฐบาลอำมาตย์ครับ ถ้าปรับได้เนียนก็อยู่นาน ถ้าดึงดันในเรื่องที่ไม่น่าทำ ก็อาจถึงจุดเปลี่ยนผ่านไว ต้องตามดูต่อไปครับ

    ตอบลบ